จากกรณีนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต ส.ส.พัทลุง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า “เช้านี้ ผมไลน์หาคุณชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ กัลยาณมิตรของผม คุณชูวิทย์ตอบว่า กำลังจะกลับเมืองไทยแล้ว กลับเมื่อไหร่จะแวะไปกราบคุณนิพิฏฐ์ ผมดีใจรอคุณชูวิทย์กลับมา”
โดยนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองชื่อดัง เคยออกมาเปิดเผยว่าป่วยเป็นโรคมะเร็งตับ และประกาศยุติบทบาทต่างๆ ก่อนเดินทางไปรักษาตัวที่ประเทศอังกฤษ เมื่อประมาณปี 2566 ที่ผ่านมา
“ชูวิทย์”กลับถึงไทยตามศาลนัด
ล่าสุด นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ เดินทางกลับถึงไทย เมื่อคืนวันที่ 3 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา เพื่อเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ตามนัดของศาล ก่อนหน้านี้ นายชูวิทย์ได้ยื่นขอเลื่อนนัดศาลในทุกคดี เพื่อรักษาอาการป่วยตามกระบวนการจนครบขั้นตอนที่กำหนดก่อน ซึ่งทุกศาลเมตตา อนุญาตให้เลื่อนมาจนถึงเดือนนี้ วันนี้ นายชูวิทย์จึงกลับเข้ามาสู่กระบวนการยุติธรรมตามที่ได้ให้คำมั่นกับศาลไว้ ประกอบกับมีธุระส่วนตัวต้องจัดการเกี่ยวกับเอกสารสำคัญ ปัจจุบันการรักษายังต้องดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ยังไม่พร้อมที่จะออกสื่อ หรือให้สัมภาษณ์ใดๆ
ต่อมามีภาพที่ปรากฎ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ และ นายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตนายตำรวจสันติบาล นั่งจับมือกัน ทำให้หลายคนมีข้อสงสัยว่า จะถอนฟ้องหรือไม่
ต่อมาทีมงานนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ แจงภาพที่ปรากฎในสื่อ ว่า “ภาพนี้ ถ่ายวันนี้ ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ เมื่อเวลาประมาณ 16.30 น. คุณชูวิทย์มาตามนัดศาล 2 คดี ที่คุณสันธนะ ฟ้องหมิ่นประมาทจากการถอดข้อความคำพูดสมัยที่มีเรื่องกัน ศาลท่านได้ให้เข้าสู่กระบวนการคุ้มครองสิทธิ (ไกล่เกลี่ย) ทั้งสองคดีก่อน แต่เนื่องจากคุณสันธนะ ไม่ทราบว่าคุณชูวิทย์จะมา จึงส่งมาแค่ทนาย โดยทนายได้โทรแจ้งให้คุณสันธนะทราบว่า คุณชูวิทย์ มาศาลด้วยตัวเอง และเข้าสู่ขั้นตอนการไกล่เกลี่ยคดี จึงได้ตกลงกันขอเลื่อนนัดไกล่เกลี่ยเป็นวันที่ 17 ธันวาคม 2567
ในระหว่างที่คุณชูวิทย์กำลังยื่นเรื่องขอประกันตัว ทางทนายคุณสันธนะได้แจ้งว่า คุณสันธนะจะเดินทางมาพบ ทั้งสองจึงได้พบกันและพูดคุยกันครับ ส่วนเรื่องคดี ยังไม่มีการแจ้งจากคุณสันธนะว่าจะถอนหรือไม่ครับ”
ขอโทษเคลียร์ใจ
ด้านนายสันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตนายตำรวจสันติบาล เปิดเผยว่า วันนี้ได้พบกับ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หลังจากที่ศาลแขวงพระนครใต้ และศาลอาญากรุงเทพใต้ ได้นัดไต่สวนในคดีหมิ่นประมาท ซึ่งต่างกรรมต่างวาระด้วยกัน ที่ตนเองฟ้องหมิ่นประมาท นายชูวิทย์ ซึ่งในคดีแรก ที่ศาลแขวงพระนครใต้ นายสันธนะกล่าวว่า คุณชูวิทย์ได้รับสารภาพต่อศาล ส่วนช่วงบ่ายที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ นายชูวิทย์ ได้ขอประกันตัวไป จากสาเหตุสุขภาพ โดยคดีทั้งหมดมีประมาณกว่า 10 คดี ซึ่งต่างกรรมต่างวาระกันไป ทางฝ่ายคุณชูวิทย์มีการนัดหมาย อยากให้รวมคดีทั้งหมดเป็นคดีเดียวกัน ซึ่งก็เป็นคดีที่นายชูวิทย์ได้กล่าวถึงตนตามสื่อต่างๆ
เมื่อถามว่าได้ให้กำลังใจนายชูวิทย์หรือไม่ นายสันธนะกล่าวว่า เรื่องของกำลังใจ ความสัมพันธ์ต่างๆ ก็มีพบกันเป็นระยะๆ เหตุครั้งสุดท้ายก็ที่พบกันที่โรงแรมของเขา ซึ่งมันก็ผ่านไปแล้ว เรื่องข้อเท็จจริงต่างๆ เขาเองก็พูดกับตนหลายเรื่อง
ในส่วนของเรื่องคดีก็ให้ดำเนินไปตามกฎหมาย สรุปว่าวันนี้ตนได้มาเยี่ยมอาการเขาและได้พูดคุยกัน ซึ่งคุณชูวิทย์ได้บอกกับตนว่าเรื่องอาการป่วยนั้นคงจะรักษาไม่หาย ได้แต่ประคับประคอง ซึ่งอาจจะเป็นช่วงเวลาสุดท้ายของทางคุณชูวิทย์ เท่าที่ตนเห็นอาการของคนชีวิตก็มีอาการเหนื่อยพอสมควรและทนายคุณชูวิทย์ได้มีการถ่ายรูปคู่กันเพื่อยื่นพิจารณาในชั้นศาล จะได้ไม่ต้องมาหลายครั้งเหมือนคนไม่ป่วย