สลด พ่อหายตัว 5 วัน ก่อนเข้าฝันญาติ เผยคำสั่งเสีย ชี้จุดสุดท้าย ก่อนพบศพ ตำรวจคาดสาเหตุ รถตกข้างทาง พยายามใช้แม่แรงยกรถ ก่อนถูกทับดับ
วันที่ 21 พ.ย.2567 ร.ต.อ.พงษ์พิชิต ธนาพันธ์ภักดี รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.มัญจาคีรี เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 17.30 น.ของวันที่ 20 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้รับแจ้งจากชาวบ้านหนองโน ม.5 ต.กุดเค้า อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ว่าพบศพคนเสียชีวิตในไร่อ้อย ด้านทิศเหนือของหมู่บ้าน
หลัวรับแจ้งจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.ท.สุรพล สินเพ็ง รองผกก.สอบสวน สภ.มัญจาคีรี, เจ้าหน้าที่ ศพฐ.4 ขอนแก่น และแพทย์เวร โรงพยาบาลมัญจาคีรี
ที่เกิดเหตุพบรถกระบะ ยี่ห้อฟอร์ด ทะเบียน ขอนแก่น สภาพตกอยู่ข้างทางในป่าอ้อย กระจกรถเปิดไว้ทั้ง 2 ข้าง และประตูรถฝั่งคนขับเปิดทิ้งไว้ หลังกระบะพบเสื่อ กล้วย และกระติกน้ำแข็ง ส่วนในรถพบกุญแจรถเสียบคารูกุญแจในตำแหน่งสตาร์ท และเกียร์รถก็อยู่ในตำแหน่งเกียร์ถอยหลัง ไม่พบร่องรอยการต่อสู้
ใกล้กันพบร่างผู้เสียชีวิต สภาพศพสวมเสื้อยืดสีน้ำเงินแขนยาว กางเกงขายาวสีดำ สวมรองเท้าบูท นอนหงายตายอยู่ข้างประตูรถฝั่งคนขับ ขาข้างขวาถูกล้อหน้าเหยียบจนถึงโคนขา ขาซ้ายพาดอยู่ขอบล่างของประตู ศพเน่าเปื่อย ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่ว
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ให้ชาวบ้านนำรถไถ มาลากรถกระบะออกจากจุดที่เกิดเหตุ ก่อนให้มูลนิธิร่วมกตัญญูมัญจาคีรี ย้ายร่างผู้ตาย ทราบชื่อต่อมาคือ นายหนูเพน (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 68 ปี
แพทย์จึงชันสูตรศพผู้ตาย เบื้องต้นเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 5 วัน สันนิษฐานสาเหตุผู้ตายจะขับรถถอยหลังในความมืดแล้วตกข้างทาง ก่อนพยายามใช้แม่แรงเพื่อยกรถขึ้น แต่ถูกรถตัวเองทับร่างไม่สามารถไปไหนได้จนเสียชีวิต
ต่อมา นางบุญเลี้ยง (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 62 ปี ภรรยาของผู้ตาย พร้อมลูกสาว ลูกเขย และญาติพี่น้อง ที่มาดูจุดพบศพคนตาย โดย นางบุญเลี้ยง กล่าวว่า ในทุก ๆ เช้าและเย็นของทุก ๆ วัน สามีจะพามาขายผักสดที่ตลาดสดมัญจาคีรี
นางบุญเลี้ยง กล่าวต่อว่า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพืชผักที่เก็บจากธรรมชาติ ทั้งผักบุ้งนา ปลีกล้วย ใบตอง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด โดยในช่วงสายของวันที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา สามีได้ไปส่งตะไคร้ให้ตนที่ตลาด จากนั้นก็บอกว่าจะไปขุดตะไคร้ เตรียมมาส่งให้ลูกค้าในวันต่อไป พร้อมทั้งบอกอีกว่าจะไปหาลูกสาวที่นา
นางบุญเลี้ยง กล่าวอีกว่า พอช่วงเย็นกลับถึงบ้าน ก็ไม่เห็นสามี จึงคิดว่านอนอยู่ที่นากับลูกหลาน จนถึงเช้าวันที่ 16 พ.ย. ก็ยังไม่เห็นสามี จึงโทรศัพท์ไปถามลูกสาวก็บอกว่า พ่อไม่ได้ไปหา จากนั้นก็ออกตามหาตามญาติพี่น้อง และเพื่อนสนิท เนื่องจากสามีเป็นอดีตข้าราชการครู อาจจะขับรถไปหาเพื่อน แต่ไม่มีใครพบเจอ
“ติดต่อทางโทรศัพท์ โทรติด แต่ไม่มีคนรับสาย จึงได้แจ้งความคนหายที่ สภ.มัญจาคีรีและ สภ.โคกโพธิ์ไชย ทั้งยังพยายามติดต่อทางโทรศัพท์กับสามีตลอดเวลา 3 วันแรกมีสัญญาณโทรติดตลอด แต่ไม่มีคนรับสาย พอวันที่ 4 ช่วงเช้าติดต่อไม่ได้ แต่ช่วงบ่ายโทรติด แต่ไม่มีคนรับสาย จากนั้นก็ติดต่อไม่ได้อีกเลย” นางบุญเลี้ยง กล่าว
นางบุญเลี้ยง กล่าวว่า ตั้งแต่ติดต่อสามีไม่ได้ ได้ไปหาหมอดู หมอดูบอกว่า สามีนอนอยู่ในป่าอ้อย ป่าหญ้ารก หากพบตัวก็จะพบเป็นศพแล้ว คนในครอบครัวก็รู้สึกไม่สบายใจ พากันออกตามหาตามป่าอ้อยในพื้นที่อ.โคกโพธิ์ไชยทุกวัน แต่ไม่พบทั้งรถทั้งคน
ภรรยาของผู้ตาย กล่าวต่อว่า กระทั่งช่วงเช้าวันนี้ ญาติได้บอกกับลูกเขยว่า ฝันเห็นคนตายมาบอกว่า ให้ดูแลตน เพราะคนตายยังเก็บผักบุ้งในหนองน้ำใกล้ป่าอ้อยไม่เสร็จ จึงยังกลับบ้านไม่ได้ ลูกเขยจึงบอกตน แต่ตอนนั้นยังไม่เอะใจ
นางบุญเลี้ยง กล่าวอีกว่า แต่ก็ได้เดินไปดูที่หนองน้ำ ที่ผู้ตายเคยไปเก็บผักบุ้ง ก็เห็นรถยนต์ตกอยู่ข้างทาง จึงรีบโทรศัพท์มาบอกตน ตนจึงให้ลูกพาไปดู จึงพบร่างสามี นอนตายอยู่ข้างรถ จึงได้แจ้งตำรวจมาตรวจที่เกิดเหตุและชันสูตรศพ
นางบุญเลี้ยง กล่าวด้วยว่า จากสภาพศพ คิดว่าสามีน่าจะขับรถมายังหนองน้ำที่เคยมาเก็บผักบุ้ง แต่ขับรถจักรยานยนต์พ่วงข้างมา ไม่เคยเอารถยนต์มา ครั้งนี้สามีมาคนเดียวเอารถยนต์มา อาจจะมาถึงแล้วมืด ทางข้างทางมีร่องน้ำที่ไหลจากคลอง จึงไปต่อไม่ได้ คาดว่าน่าจะถอยรถกลับทางเดิม
นางบุญเลี้ยง กล่าวว่า ด้วยความมืด รถจึงตกลงไปในป่าอ้อยข้างทางที่มีหญ้าขึ้นรก ไม่มีผู้คนผ่านเพราะเป็นถนนกลางไร่อ้อย จึงไม่มีคนพบเห็น สามีน่าจะพยายามใช้แม่แรงยกรถขึ้น โดยใช้ขาซ้ายเหยียบคันเร่ง แต่เสียหลักไหลเหยียบขาขวา จนถึงโคนขา บาดเจ็บ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ทำให้เสียชีวิต
เบื้องต้นครอบครัวก็ติดใจการตาย เพราะไม่เห็นโทรศัพท์ จึงอาจจะเป็นไปได้ว่าสามีถูกฆาตกรรม แต่หลังแพทย์ชันสูตรศพ และค้นในรถก็พบโทรศัพท์อยู่ในลิ้นชักรถยนต์ ครอบครัวจึงหายสงสัย และขอรับศพสามีกลับไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี
ด้าน น.ส.ริตา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี ลูกสาวคนตาย กล่าวว่า มีชาวบ้านเห็นพ่อไปขอถุงปุ๋ยเพื่อจะเอาไปใส่ตะไคร้ หลังจากนั้นก็หายตัวไป ซึ่งหลังพ่อหายไปก็ได้พูดคุยกับแม่พร้อมทั้งออกตามหา ประกาศตามหาในโซเชียลก็ไม่เจอ ไม่มีใครแจ้งเข้ามา ได้ออกตามหาพ่อได้โทรศัพท์หาพ่อตลอด ซึ่งโทรติดแต่ไม่มีคนรับ
น.ส.ริตา กล่าวต่อว่า กระทั่งช่วงเช้าวันอาทิตย์โทรหาไม่ติด แต่ช่วงบ่ายโทรติดไม่มีคนรับอีก จึงคิดว่าพ่อจะใช้โทรศัพท์หรือมีคนอื่นใช้โทรศัพท์พ่อหรือไม่ ทำให้เกิดความสงสัยแต่ก็ภาวนาไม่อยากให้เป็นการฆาตกรรม
น.ส.ริตา กล่าวอีกว่า เพราะพ่อเป็นคนทำไร่ทำสวนหาตะไคร้ไปส่งขายที่ตลาดไม่เคยมีเรื่องกับใคร ถ้าพ่อออกจากตลาดตามที่มีชาวบ้านเห็นตอนเย็นก็คงจะมืดแล้ว มาตรงนี้อาจจะเกิดอุบัติเหตุได้จากความมืด
“ก่อนพบศพพ่อนั้น มีญาติฝันเห็นพ่อมาเก็บผักบุ้งที่หนองน้ำใกล้จุดเกิดเหตุ พ่อฝากให้มาบอกให้ตนดูแลแม่ให้ด้วย กระทั่งช่วงเช้าวันนี้ญาติให้สามีพามาดูที่หนองน้ำ จุดที่ฝันเห็นและพ่อเคยมาเก็บผักบุ้ง ก็เห็นรถของพ่อ จึงรีบโทรมาบอกตน ตนพร้อมสามีจึงพาแม่มาดูที่รถ ซึ่งหลังพบศพพ่อ ก็พบโทรศัพท์ของพ่อแล้ว จึงหายสงสัยในประเด็นฆาตกรรม และรับศพพ่อกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป” น.ส.ริตา กล่าว