ผู้เสียหาย เปิดไทม์ไลน์ ถูก เชน ธนา เบี้ยวจ่ายเงิน สูญ 79 ล้าน งง สินค้ามีปัญหาทำไมยังขายของอยู่
เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในรายการ เที่ยงวันทันเหตุการณ์ ได้เปิดเผยว่า วันนี้ (18 พ.ย.67) เชน ธนา และภรรยา จะเข้าพบกองปราบหลังถูกออกหมายเรียกเป็นครั้งที่ 2 ในข้อหาร่วมกันฉ้อโกง คดีนี้ผู้เสียหายบอกว่าสูญเงินไป 79 ล้านบาท คือ นายนริศ วิทยาวรากรณ์ กรรมการ ผจก.บริษัทไทนยินตัน จำกัด
นายนริศกล่าวว่า บริษัทของเขาเป็นบริษัทนำเข้าสมุนไพรจากบริษัทต่างๆ จากต่างประเทศ มีการนำเข้าอาหารเสริมชนิดโปรไบโอติกจากประเทศญี่ปุ่นด้วย แล้วคุณเชนก็มาติดต่อที่บริษัทของตน ทำสัญญาผูกขาดในการสั่งผลิตและจัดจำหน่าย ในสัญญาระบุว่าต้องให้บริษัทอมาโด้เป็นผู้จัดจำหน่ายรายเดียวในประเทศไทย และต้องผลิตให้อมาโด้เท่านั้น ห้ามผลิตให้บริษัทอื่นเด็ดขาด
นายนริศกล่าวอีกว่า อมาโด้ สั่งผลิตรอบแรก 3 ล้านซอง คุณเชนย้ำด้วยว่าขอให้บริษัทรีบผลิตให้ทัน ซึ่งสินค้าล็อตแรกถูกจัดส่งไปประมาณ 75,000 ซอง ไม่ถึง 2 อาทิตย์ คุณเชนติดต่อมาอีก สั่งผลิตรอบที่ 2 ครั้งนี้ในจำนวนถึง 4 ล้านซอง ตอนนั้นก็ทักท้วงไปว่าเป็นช่วงการเปิดตลาด ให้ค่อยๆ ขายดีกว่า แต่คุณเชนก็ยืนยันจะผลิต 4 ล้านซอง ย้ำว่าให้รีบสั่งจากญี่ปุ่นแล้วรีบส่งมาให้อมาโด้ขาย เพราะจะไปจ้างพรีเซ็นเตอร์ระดับแถวหน้าของเมืองไทย จะมาช่วยโปรโมตสินค้าก็จะช่วยทำให้ขายดิบขายดี และมีโปรโมชั่นด้วย คือซื้อ 4 แถม 4 คือการจัดโปรโมชั่นแบบนี้ คำนวณแล้วราคาต่ำกว่าทุนอีก ก็ทักท้วงไปอีก คุณเชนบอกว่าไม่ต้องสนใจ มีหน้าที่ผลิตก็ผลิตมาให้ผม
นายนริศกล่าวอีกว่า ก็เลยสั่งกับทางญี่ปุ่น ผลิตอีก 4 ล้านซอง เป็นเงินกว่า 79 ล้านบาท หลังจากนั้นก็มีการนำเข้าจัดจำหน่ายผ่านทางบริษัทอมาโด้เรื่อยมา มาถึงวันนัดจ่ายเงินสำหรับสินค้ารอบแรก 3 ล้านซอง อมาโด้ส่งหนังสือมาเลื่อนการจ่ายเงินหลายครั้ง อ้างมีปัญหาเบิกจ่ายเงินในบริษัทล่าช้าไป 9 เดือน ต่อมาอมาโด้ก็ส่งหนังสือมาว่าขอรวมจ่ายครั้งเดียว 4 ล้านซอง 79 ล้านบาท แต่พอถึงกำหนดชำระก็เลื่อนไปอีก 90 เป็น 120 วัน
“จนกระทั่งอมาโด้ส่งหนังสือมาแจ้งอีกว่าสินค้า 4 ล้านซองไม่ได้มาตรฐาน ขอไม่จ่ายเงิน ก็ได้ติดต่อคุณเชน จนกระทั่งได้พูดคุยกัน ขอไม่จ่ายเงินค่าสินค้า แต่ถ้าจะให้จ่าย ก็จ่ายได้แค่ 1 ล้าน ตอนนั้นจึงลงบันทึกประจำวันกับกองปราบ หลังจากนั้นไม่นานเขาแจ้งว่าของเรามีปัญหา ผมแจ้งโนติสเข้าไปเขาก็ยังขายอยู่ จนวันสุดท้ายจริงๆ ผมก็แจ้งเขาว่า ถ้าสินค้ามีปัญหาทำไมคุณยังขายอยู่ เขาถึงหยุดทำการโปรโมตสินค้าตัวนี้”
ด้าน นายธนพงศ์ จูสนิท ทนายความของบริษัทไทยยินตัน จำกัด กล่าวว่า พฤติกรรมของคุณเชนเข้าข่ายฉ้อโกง ก็มีเจตนาเข้ามาสั่งสินค้า อ้างว่าผลิตภัณฑ์ขายดีขายได้ ให้บริษัทผลิตสินค้าส่งให้อย่างต่อเนื่อง ถ้าสินค้ามีปัญหาจริงๆ ตามหลักแล้วสามารถส่งสินค้ากลับมาเคลมได้ สุดท้ายกลับมาให้เหตุผลว่าสินค้าไม่ได้มาตรฐาน เพื่อเป็นเหตุผลที่จะไม่จ่ายเงิน 79 ล้านบาท
นายธนพงศ์กล่าวว่า ก็รวบรวมหลักฐานส่งดำเนินคดีที่กองปราบ ตอนแรกกองปราบมองว่าเป็นคดีแพ่ง กระทั่งส่งสำนวนให้อัยการ อัยการมองว่าเป็นคดีอาญา ร่วมกันฉ้อโกงจึงส่งสำนวนคดีมายังพนักงานสอบสวนให้ออกหมายเรียกคุณเชนกับภรรยามารับทราบข้อหา ซึ่งคดีนี้พูดคุยยอมความกันได้ แต่ตั้งแต่แจ้งความดำเนินคดีไปทางคู่กรณีเงียบกริบ ไม่ได้ติดต่อมาพูดคุย ไม่ได้ส่งทนายเข้ามาเจรจาทางบริษัท ก็ต้องใช้สิทธิตามกฎหมายอย่างถึงที่สุด
“ถ้าเกิดรู้ว่าเป็นการหลอกลวงตั้งแต่แรกเราคงไม่ส่งให้เขา อ้างว่าขายดีนะมีฟีดแบ๊กที่ดี แล้วก็ส่งมอบไปเรื่อยๆ ก็เป็นการทำธุรกิจปกติถ้าสินค้ามีปัญหาเราสามารถส่งเคลมกับทางญี่ปุ่นได้อยู่แล้ว คุณทำการตลาดมาตลอดเริ่มขายมาตลอด ถ้าเกิดมันมีปัญหาจริงควรจะเจอตั้งแต่ล็อตแรก”